ชมโรงงานชาเขียวญี่ปุ่นแท้แห่งแรกในเมืองไทย ผลิตชาอย่างไร ให้มีคุณภาพที่ไม่ธรรมดา
ก่อนที่จะทราบว่า ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ ของมารุเซ็นที่มีคุณภาพสูง มีวิธีเก็บชาและผลิตชาอย่างไรนั้น การได้ไปเชียงรายครั้งนี้ของ maamjourney เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ได้เยี่ยมชมไร่ชาที่ดีที่สุดในไทยและโรงงานผลิตชา ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้มาชมแบบ exclusive ขนาดนี้และได้เห็นการเก็บใบชาเขียวญี่ปุ่นแท้ Maruzen ว่าทำกันอย่างไรมีพื้นที่ปลูกเยอะแค่ไหนด้วยค่ะ
เริ่มจากไปเที่ยวชมไร่ชาในฝันของใครหลายคนก่อนเลยค่ะ จะเห็นว่าไร่ชาของไร่บุญรอดหรือสิงห์ ปาร์ค เชียงราย เป็นไร่ชาที่สวยงามมาก ใช้เวลาการปลูกมาประมาณ 10 ปีแล้ว ปลูกเป็นขั้นบันได เป็นชาสายพันธุ์อู่หลงเบอร์ 12 มีพื้นที่ปลูกประมาณ 800 ไร่ ไร่ละ 2 แสนต้น แบ่งเป็น 3 โครงการ โดยมีโครงการ 3 จะใช้พื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ปลูกเป็นชาออร์แกนิก 100% แต่ละโครงการจะได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ควบคุมต้นชาให้เก็บง่าย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 450 เมตร ขอบอกเลยว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก รสชาติดี มีคุณภาพเหมือนชามัทฉะ Matcha ของมารุเซ็น ที่เมือง Shizuoka ประเทศญี่ปุ่น และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหลักที่ทำให้มารุเซ็นถึงออกจากบ้านเกิดมาลงทุนทำไร่ชาเขียวในไทยและเลือกที่นี่
Concept ของชาญี่ปุ่นมารุเซ็น คือต้องการความสดที่สุด ทำให้อยู่ในลักษณะธรรมชาติที่สุด คล้ายจิตวิญญาณยังอยู่ เหมือนยอดชายังสดตั้งแต่ต้นชาจนถึงในกาน้ำชาเลย สดตั้งแต่วิธีเก็บยอดใบชาแล้วส่งเข้าโรงงานทันที
วิธีการเก็บใบชา ที่นี่ จะมี 2 แบบ คือ
1. แบบใช้เครื่องตัดเก็บใบชา เป็นลักษณะสองคนเดินตัด อีกสองคนช่วยถือถุงชา เวลาใบเลื่อยตัดปุ๊ปก็จะมีลมเป่า ซึ่งจะเป็นวิธีการเก็บชาวิธีเดียวกับมารุเซ็นจากญี่ปุ่นเลยค่ะ เพราะจะได้ยอดและใบชาที่สด มีการควบคุมโดยให้ตัดเฉพาะส่วนยอด เมื่อเก็บเสร็จ ก็จะมีเจ้าหน้าที่คัดแยกยอดชาและก้านด้วยความชำนาญแล้วรีบส่งเข้าโรงงานภายใน 15-30 นาที รักษาคุณภาพสุดๆ ระหว่างนั้นได้ลองชิมใบชาสดๆ แล้วมีรสฝาดมากเลยค่ะ
คลิป วิธีการตัดเก็บใบชา
2. แบบใช้คนเก็บ โดยจะเก็บยอดชาอ่อนเท่านั้นค่ะ ส่วนมากจะเก็บเพื่อทำเป็นชาแบบพรีเมียม ซึ่งจะต้องเก็บในช่วงเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเพราะจะได้ชาที่มีคุณภาพดีที่สุด ส่วนกลางวันก็มีหลังคาคลุมไว้อย่างดีเพื่อควบคุมแสงแดดค่ะ [เสียดายแบบนี้ที่ไม่มีรูปคนเก็บชามาฝาก] แต่คนที่จะมาเก็บใช่ว่าจะเก็บได้เลยทันทีนะต้องผ่านการอบรมจากทางไร่ก่อนถึงจะเก็บได้ค่ะ และที่สำคัญมีการจ้างแรงงานท้องถิ่นแถวไร่เพื่อให้เค้ามีรายได้กัน ใส่ใจแม้กระทั่งสังคมรอบข้าง
การเก็บทั้ง 2 แบบ ก็ต้องมาคัดยอดใบชาอีกครั้งก่อนส่งตรงเข้าโรงงานผลิตทันทีโดยไม่ต้องไปพักที่ไหน จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ต้องมีความชำนาญพิเศษมากเลยค่ะ เพื่อความสดนี่เอง
ชมการตัดเก็บชากันแล้ว ไปต่อที่โรงงานผลิตชาต่อ ที่นี่เป็นโรงงานญี่ปุ่นที่แรกในประเทศไทย และน่าจะเป็นที่แรกในอาเซียนที่ญี่ปุ่นมาร่วมลงทุนด้วย เพิ่งสร้างเสร็จมาได้ประมาณ 5-6 เดือน มีกำลังการผลิตสูงสุด 3,000 กิโลกรัมต่อวัน แต่ปัจจุบันผลิตได้ประมาณ 800 กิโลกรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับแรงงานท้องถิ่นที่มาเก็บค่ะ และทั้งหมดนี้ต้องผ่านกระบวนการของเครื่องจักรที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดพร้อมผู้เชี่ยวชาญที่มี Know-how จากประเทศญี่ปุ่น 100% ทั้งหมดเป็นระบบอัตโนมัติ มีคนควบคุม 4-5 คนเท่านั้น
ขั้นตอนไลน์การผลิตชา พิเศษกว่าอย่างไร ดูอย่างไร [คลิ๊ก]
– เริ่มจากจุดพักยอดใบชาเขียว จะมีลมเป่าอยู่ด้านล่างตลอดเวลาเพื่อให้มีอากาศหมุนเวียนอยู่ตลอดไม่ให้เกิดปฏิกริยากับอากาศเพื่อรอลำเลียงไปขั้นตอนต่อไป
– การอบไอน้ำ เพื่อเป่าลม ให้สะเด็ดน้ำ ต่อด้วยการระเหยน้ำจากใบ
– การรีดเพื่อให้น้ำออกจากก้าน เอาลมร้อนเป่า ให้เป็นเส้น นวด คลึง เพื่อให้ชาหอมขึ้น
– การอบให้ใบชาแห้งก่อนนำไปเก็บ
– การเอาไปเก็บ storage ในห้องเย็น
– จากนั้นก็เป็นการเสร็จสิ้นไลน์ขั้นตอนการผลิต
ได้ความรู้เรื่องการตัดเก็บใบชาและผลิต ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ จากคุณตะวัน บุรีแก้ว คนจังหวัดเชียงราย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชาของโรงงาน Maruzen ที่มีความภาคภูมิใจที่ได้ผลิตชาเขียวคุณภาพแล้ว พวกเราต้องขอบคุณมากๆ และโชคดีจริงๆ ที่ได้มาชมที่นี่เลยค่ะ เป็นไร่ชาที่น่าทึ่ง น่าสนใจมากเลยนะคะ เพราะทุกอย่างต้องผ่านการใส่ใจเป็นศาสตร์และศิลปะในการดูแลตั้งแต่การปลูกและการผลิต ถึงจะได้ชาที่ดีมีคุณภาพ คนที่ชอบดื่มชาจริงๆ เห็นใบชาหรือเอามาดมก็จะรู้ทันทีว่าเป็นชาดี มีประโยชน์ [คลิ๊ก] จะรู้เลยว่าโรงงานดูแลชาเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนไปพิสูจน์กันว่ามีคุณภาพที่ไม่ธรรมดาอย่างไรค่ะ